“ป่าครอบครัว” ทางเลือกเพื่อทางรอด ตอนที่ 2

ป่าไม้และแหล่งน้ำมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการอยู่รอดของสิ่งมีชีวิตบนโลก เมื่อพูดถึงป่า เรามักนึกถึงภาพผืนป่าขนาดใหญ่อย่างอุทยานแห่งชาติ ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด สัตว์ป่าอย่างโขลงช้าง ฝูงกระทิง ฝูงกวาง ภาพจำที่เห็นได้จากทางสื่อต่างๆ ภาพของต้นไม้ใหญ่ใบเขียวครึ้มให้ร่มเงากับสรรพสัตว์ เป็นภาพจำที่มักสร้างความเข้าใจผิดให้หลายๆ คนคิดว่า ต้นไม้ขนาดใหญ่มีคุณค่ามากกว่าไม้พุ่ม หรือไม้ล้มลุกขนาดเล็ก ทั้งที่จริงแล้ว ป่าที่สมบูรณ์นั้นต้องประกอบไปด้วยไม้ขนาดใหญ่ ไม้พุ่มขนาดเล็ก ไม้ล้มลุก ไม้เลื้อย รวมไปถึงวัชพืชและไม้พึ่งพิงด้วย
ในแต่ละปีประเทศไทยจะเต็มไปด้วยโครงการปลูกป่าต่างๆ มากมาย หลายโครงการมีการโฆษณาอย่างใหญ่โตถึงการปลูกป่าในพื้นที่หลักล้านไร่ แต่จากตัวเลขการลดลงของผืนป่ากลับสวนทางกับโครงการต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นอยู่ตลอด กิจกรรมการปลูกป่าที่เกิดขึ้นมักมีการกำจัดตัดถางวัชพืชเพื่อปลูกกล้าพันธุ์ไม้ขนาดใหญ่ ซึ่งวัชพืชดังกล่าวก็คือ ไม้พุ่ม หรือไม้ล้มลุกขนาดเล็กๆ เป็นชนิดพันธุ์พืชท้องถิ่นที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ กลับกลายเป็นว่า เราไปทำลายพืชท้องถิ่น แล้วนำสิ่งแปลกปลอมไปปลูกในพื้นที่แทน
เมื่อหลายวันก่อน เรามีโอกาสได้พบ “พ่อคำเดื่อง ภาษี” ปราชญ์ชาวบ้าน จ.บุรีรัมย์ “คนบ้าปลูกต้นไม้” ผู้สร้าง “อาณาจักรเขียวหมื่นปี” ป่าครอบครัวบนพื้นที่กว่า 270 ไร่ เป็นแบบอย่างให้กับเกษตรกร นักวิชา และคนอย่างเราๆ ปลูกต้นไม้ทั้งไม้ใหญ่ ไม้เล็ก ไม้ผล ปลูกทุกอย่างตามความต้องการ อยากได้บ้านก็ปลูกไม้สัก อยากได้ฝาบ้านก็ปลูกมะค่าโมง อยากกินขนุนก็ปลูกขนุน อยากได้หน่อไม้ก็ปลูกไผ่ “ปลูกรวมกัน แล้วปล่อยให้ธรรมชาติเขาดูแลกันเอง แต่อย่าปลูกต้นไม้ชนิดเดียวกันหมด” พ่อคำเดื่อง บอกเรา
ในวันที่ได้เจอพ่อคำเดื่อง เรามีโอกาสได้เดินดูป่าแปลงใหม่ที่พ่อคำเดื่อง ที่ตั้งชื่อไว้ยังกับซีรี่ส์เกาหลี “ดาวดวงใหม่ บนโลกใบเดิม” ก็ทำให้เรานึกถึงตอนที่มีโอกาสได้ไป “สวนลุงนิล” หรือ “ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติพืชคอนโด 9 ชั้น” ของคุณลุงสมบูรณ์ ศรีสุบัติ ที่ จ.ชุมพร ที่ปลูกพืชตามระดับชั้น ชั้น 1 ขุดบ่อเลี้ยงปลา ปลูกพืชน้ำอย่างผักกระเฉด ผักบุ้ง บัว ชั้น 2 ปลูกพืชคลุมดิน กลอย และพืชตระกูลหัวต่างๆ ชั้น 3 ปลูกพืชหน้าดิน เช่น พริกและผักเหลียง ชั้น 4 ปลูกส้มจี๊ด มะนาว ชั้น 5 ปลูกกล้วยเล็บมือนาง ชั้น 6 ปลูกไม้ผลยืนต้น อย่างทุเรียนหมอนทอง ชั้น 7 ปลุก สะตอ มังคุด แซมด้วยหมาก และไม้เลื้อยอย่างพริกไทย แก้วมังกร เป็นรายได้เสริม ชั้น 8 เป็นส่วนของธนาคารต้นไม้ เป็นไม้ใช้สอยในระยะยาว อย่างตะเคียน ชั้น 9 ปลูกไม้ยางนา ตะแบกใหญ่ ประดู่ ให้พืชทั้ง 9 ชั้นอยู่ร่วมกันอย่างเกื้อกูล บ้างให้ร่มเงาซึ่งกันและกัน บ้างเก็บความชื้นให้กัน เติบโตไปพร้อมๆ กัน
“ปลูกก็คือปลูก ปลูกป่าแค่ 3 นาที ผ่านไป 20 ปี ต้นไม้สูง ถ้าไม่ปลูกก็ไม่มีอะไรเลย” พ่อคำเดื่องย้ำกับเรา ปัจจุบันป่าแปลงเก่าเนื้อที่ 270 ไร่ ที่พ่อคำเดื่องทำมา 30 ปี ปล่อยให้นกยูงได้อาศัย ส่วนป่าแปลงใหม่นี้มีเนื้อที่แค่ 10 ไร่ เพื่อแสดงให้เห็นว่า เนื้อที่ไม่ใช่ข้อจำกัด เหมือนป่าบนคันนาของ พี่สมศรี สุริเย เกษตรกรอ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ที่ปลูกมา 12 ปี มีต้นไม้ทั้งเล็กใหญ่รวมกันกว่า 800 ต้น รายได้บางส่วนได้มาจากการตัดกิ่งไม้เผาถ่านขาย
ป่า “ดาวดวงใหม่ บนโลกใบเดิม” ของพ่อคำเดื่อง แต่เดิมเป็นสวนยางพาราที่เจ้าของเดิมเลิกทำแล้ว พ่อเดื่องเริ่มปลูกต้นไม้แซมไปตามช่องว่างระหว่างแถวยางนา “ไม่ได้ตัดยางเพื่อปลูกป่า แต่สร้างระบบนิเวศให้เขาอยู่ร่วมกัน” นี่แสดงให้เห็นว่า แม้พื้นที่จะเคยผ่านการทำเกษตรเชิงเดียวที่ส่วนใหญ่เกิดการทำลายดินมาก่อนก็สามารถพลิกฟื้นให้กลับมาเป็นป่าได้ แบบเดียวกับที่ พี่สุเนตร ดัชถุยาวัชร เกษตรกรอ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เปลี่ยนเปลี่ยนไร่มันเป็นป่าใน 8 – 9 ปี ปลูกไม้หลากหลายชนิด ลองผิดลองถูก ไม้บางชนิดปลูกแล้วไม่ได้ผลก็ปลูกไม้ชนิดอื่นแทน ปลูกทิ้งไว้แล้วปล่อยให้ต้นไม้ดูแลกันเอง เรียนรู้ว่า ไม้พะยูง ประดู่ มะค่า มะฮอกกานี เป็นไม้ทนทานปลูกไม่ต้องดูแลก็โตได้ ท้ายสุดเมื่อต้นไม้เติบโตแข็งแรงด้วยตัวเอง ต้นไม้จะจัดการกันเองไม่ต้องดูแล
การสร้าง “ป่าครอบครัว” อาจมีรูปแบบแตกต่างกันไปตามความเหมาะสมของพื้นที่ ภูมิอากาศ ภูมินิเวศ รวมถึงวิถีชีวิตของเจ้าของที่ดินเอง ไม่จำเป็นต้องปลูกเหมือนๆ กัน แต่ต้อง “ปลูกทุกอย่างที่กิน กินทุกอย่างที่ปลูก และเหลือนำไปแบ่งปันและจำหน่าย” อย่างที่ ดร.เกริก มีมุ่งกิจ ปราชญ์ชาวบ้านแห่งเขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว ผู้ได้รับการยกย่องเป็น “เทพแห่งเกษตรกร” ประธานบริหารธนาคารต้นไม้ระดับชาติ และผู้ร่วมก่อตั้งโครงการ “คนกล้าคืนถิ่น” ไอดอลของคนทำอาชีพเกษตรกรรม และคนปลูกป่าทั้งประเทศ ได้เคยกว่าไว้
“ป่าครอบครัว” ไม่ใช่เรื่องใหม่ และไม่ใช่เรื่องใหญ่เกินกว่ากำลังของพวกเรา แต่เป็นเรื่องที่ต้องสร้างความเข้าใจ สร้างการรับรู้ถึงคุณค่าในสังคมวงกว้าง ชื่นชมกับคนที่กำลังทำอยู่ ให้กำลังใจกับคนที่กำลังคิดจะทำ และสร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกๆ คน “ต้นไม้โตไว คือ ไม้ที่ปลูกทันทีตอนนี้ เวลานี้ ต้นไม้โตช้า คือ ต้นไม้ที่คิดว่าจะปลูก พรุ่งนี้ เดือนนี้ ปีนี้ ส่วน ต้นไม้ที่ไม่โต คือ ต้นไม้ที่ไม่ได้ปลูก” พ่อคำเดื่อง บอกพวกเรา
ข้อมูลอ้างอิง
Youtube : สามอาชีพ เพื่อมนุษยชาติ, คนรักป่า Channal