February 12, 2024

Water Footprint ร่วมกันตระหนัก “รักษ์น้ำ”

Water Footprint ร่วมกันตระหนัก “รักษ์น้ำ” แม้ว่าบนโลกสีฟ้าของเรานี้จะมีน้ำเป็นส่วนประกอบมากถึง 80% แต่เป็นน้ำจืดเพียงแค่ 3% และน้ำจืดส่วนใหญ่ก็อยู่ในรูปของน้ำแข็งมากถึง 70% นั่นหมายความว่า เรามีน้ำจืดที่ใช้ได้ไม่ถึง 1% ของน้ำบนโลก เพียงเท่านั้น และถึงแม้ว่าน้ำจะเป็นทรัพยากรที่สามารถหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่ได้ แต่น้ำที่ถูกใช้ไปแล้วก็ไม่สามารถกลับมาใสสะอาดดังเดิมได้ หรือหากจะให้กลับมาใสสะอาดก็ต้องเปลือกทรัพยากรในการทำให้มันกลับมาเป็นเหมือนก่อนหน้า ในแทบทุกกิจกรรมที่เกิดขึ้นบนโลก มักหลีกเลี่ยงการใช้ทรัพยากรน้ำแทบไม่ได้ ในระหว่างวันที่เราดื่มน้ำเข้าไป แล้วร่างกายขับน้ำออกมาเป็นเหงื่อหรือปัสสาวะ น้ำเหล่านั้นก็กลายเป็นของเสียที่ไม่สามารถนำกลับมาดื่มได้อีก เหมือนการใช้น้ำในโรงงานอุตสาหกรรม หรือการทำเกษตรกรรม เมื่อใช้น้ำเสร็จแล้วก็ต้องบำบัดก่อนที่จะปล่อยกลับสู่แหล่งน้ำ หรือนำกลับไปใช้ใหม่ ในทุกๆ วัน กิจกรรมต่างๆ ของมนุษย์ล้วนสร้างให้เกิด “รอยเท้าการใช้น้ำ” หรือ “Water Footprint” ทั้งที่เป็น Direct Water Use คือ น้ำที่เรานำไปใช้โดยตรง เช่น น้ำดื่ม การอาบน้ำ ซักผ้า และ Indirect Water Use (หรือ Virtual Water Use หรือ Hidden…

Read more

ถอดบทเรียนการพัฒนาชุมชน “สิ่งสำคัญของการพัฒนาชุมชน ทำงานร่วมกัน ให้ชุมชนเป็นพระเอกเสมอ”

ถอดบทเรียนการพัฒนาชุมชน “สิ่งสำคัญของการพัฒนาชุมชน ทำงานร่วมกัน ให้ชุมชนเป็นพระเอกเสมอ” แผนปฏิบัติการพัฒนาชุมชน ต้องเป็นปัญหาร่วม ที่ส่งผลกระทบต่อชุมชน ไม่ใช่คนใดคนหนึ่ง การออกแบบกิจกรรมเราจะทำแผนปฏิบัติการร่วมกับชุมชน ชวนเขาวิเคราะห์ปัญหา หรือสิ่งที่อยากพัฒนาเพิ่มเติม หลังจากที่ออกแบบเสร็จเราก็จะมีการพูดคุยหารือกัน นอกจากนี้แผนปฏิบัติการร่วม แผนปฏิบัติการรายชุมชน การวิเคราะห์ปัญหา จะต้องคิดถึงปัญหาร่วมทั้งชุมชน และวิธีการแก้ไขปัญหาต่างๆ รวมถึงทรัพยากรที่มีในชุมชน โดยไม่ใช่ความต้องการใครคนใดคหนึ่ง นักพัฒนาจะต้องช่วยวางแผนให้ชุมชนเติบโตได้ในระยะยาว สร้างภาคีเครือข่ายให้ชุมชนไปต่อได้ในวันที่ไม่มีเรา เวลาลงชุมชนแต่ละครั้งจะต้องมีเป้าหมาย ร่วมกันวางแผน เก็บข้อมูล หาแนวทางการทำงานต่อ รวมไปถึงการเชื่อมโยงหน่วยงานต่าง ๆ ที่จะเข้ามาร่วมในระยะยาว และจะเป็นเพื่อนร่วมทางในการทำงาน โดยทีมจะมองอยู่ 3 ระดับ 1. ชุมชนให้แข็งตัวระดับหนึ่งก่อนเราจะไม่เชิญหน่วยงานแบบเต็มร้อย 2. สร้างกลไกชุมชนข้ามหมู่บ้านให้เป็นเพื่อนกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน 3. เมื่อชุมชนดำเนินการได้เองจึงชวนหน่วยงานอื่นเข้ามาร่วม จริง ๆ แล้วหน่วยงานมีภารกิจของงานตัวเองอยู่แล้ว ดังนั้นเราจะต้องดูภารกิจและบทบาทของหน่วยงานเป็นหลัก เช่น หน่วยงานท้องถิ่นจะดูในเชิงนโยบายและงบประมาณ ถ้าในแผนมีและตรงกันสามารถดันกันได้ก็เชิญชวนมาทำร่วมกัน ใช้เครื่องมือที่เรียกว่าการเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติอย่างมีส่วนร่วม (Participatory Interactive Learning through Action) หรือ PILA การดึงคนหลายกลุ่มเข้ามามีส่วนร่วม…

Read more

ถอดบทเรียนการทำงานพัฒนาชุมชน “กระบวนการแก้ไขปัญหาเชิงนวัตกรรม ที่ตอบโจทย์ชุมชน”

ถอดบทเรียนการทำงานพัฒนาชุมชน “กระบวนการแก้ไขปัญหาเชิงนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ชุมชน” การนำนวัตกรรม หรือเทคโนโลยีมาประยุต์ใช้ในชุมชน เราจะต้องหาปัญหาจากชุมชนก่อน ลงไปเก็บข้อมูลด้วยตนเองและขอข้อมูลจากชุมชน หรือทีมงานในพื้นที่ การนำนวัตกรรม หรือเทคโนโลยีมาประยุต์ใช้ในชุมชน เราจะต้องหาปัญหาจากชุมชนก่อน ลงไปเก็บข้อมูลด้วยตนเองและขอข้อมูลจากชุมชน หรือทีมงานในพื้นที่ เพื่อที่จะต้องรู้ว่าปัญหาเกิดจากอะไร หลังจากที่รู้ว่ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้นแล้ว จากนั้นจึงเข้าสู่ขั้นตอนการหาข้อมูลการแก้ปัญหา ไม่ว่าจะจากงานวิจัยต่าง ๆ หรือการเข้าปรึกษากับเชี่ยวชาญที่เรามีอยู่ โดยเราต้องมีชุดคำตอบระดับนึงเพื่อเข้าไปหาข้อสรุป ปัญหา สาเหตุ และวิธีการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ซึ่งในแต่ละพื้นที่ แต่ละชุมชน ก็จะมีปัญหาที่เกิดขึ้น ทำให้การออกแบบจะแตกต่างกันออกไป สิ่งสำคัญของกระบวนการแก้ไขปัญหาเชิงนวัตกรรมนั้น ทุกกระบวนการจะต้องผ่านการมีส่วนร่วมของชุมชน ไม่ทิ้งชุมชนชวนทำ มีการคุยที่ชัดเจน มีการติดตามงานตลอด ไม่มีการโยนงาน ทำให้ชุมชนสนุก การแก้ไขปัญหาด้วยนวัตกรรม ต้องอธิบายกับชุมชนว่ามาเก็บข้อมูลเพื่อแก้ปัญหาอะไร โดยอธิบายและแสดงตัวอย่าง เพื่อให้ชุมชนเข้าใจ หรือการแปลกเปลี่ยนคำถาม ออกแบบร่วมกัน โดยทุกกระบวนการจะต้องผ่านการมีส่วนร่วมของชุมชน พูดให้ชุมชนเชื่อมั่นในนวัตกรรมที่จะทำการทดลอง โดยยืนยันด้วยข้อมูลที่ค้นหามาแล้ว หรือมีการทดสอบทดลองมาแล้ว และอธิบายด้วยว่าผลคืออะไร ทดลองที่ไหน อธิบายให้เห็นภาพ แต่จะไม่เสมอไป เพราะบางพื้นที่จะมีข้อจำกัดในบางเรื่องไม่สามารถทำได้ และสิ่งสำคัญในกระบวนการแก้ไขปัญหาเชิงนวัตกรรมนั้นคือ เราไม่ทิ้งชุมชน ชวนทำ มีการคุยที่ชัดเจน มีการติดตามงานตลอด ไม่มีการโยนงาน…

Read more

ถอดบทเรียนการทำงานพัฒนาชุมชน “การสร้างภาคีเครือข่ายในพื้นที่”

ถอดบทเรียนการทำงานพัฒนาชุมชน “การสร้างภาคีเครือข่ายในพื้นที่” โครงการพลังชุมชนและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน CEIS ในพื้นที่ภาคใต้ (จังหวัดสตูล และจังหวัดสงขลา) สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในการดำเนินงานพัฒนาในพื้นที่ คือ “การสร้างภาคีความร่วมมือแบบหุ้นส่วน” เพื่อส่งเสริมกระบวนการทำงานพัฒนาที่ยั่งยืนให้แก่ชุมชนในพื้นที่เป้าหมาย และหน่วยงานตามภูมิภาคที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในช่วงเริ่มต้นก็ยังถือว่ามีอุปสรรค เพราะว่าหน่วยงานภาคีต่าง ๆ เขาก็จะมีฟังก์ชั่น รูทีน ของเขาเองอยู่แล้ว เขาก็ไม่รู้จักเราว่าเราเป็นใคร มีฟังก์ชั่นการทำงานเป็นอย่างไร วันนี้ D community ได้ถอดประเด็นสำคัญ 5 Step จากทีมทำงานในพื้นที่ภาคใต้ ทำอย่างไรให้เขารู้จักเรา และเข้าใจการทำงานของโครงการเรา รวมถึงวิธีการออกแบบการทำงานในการเชื่อมโยงเครือข่าย สร้าง Partnership จนได้เห็นเป็นภาพผลผลิตความร่วมมือทั้งในระดับพื้นที่ และระดับจังหวัด Step 1 สร้างความรู้จัก หาจุดลงตัว เห็นแนวทางการทำงานร่วมกัน ดังนั้นการที่เราสามารถดึงเขามาทำ การที่เราดึงองค์ความรู้ดั้งเดิมเรามาใช้ ทำให้เราเรียนรู้ไปกับเขา ขณะเดียวกันเขาก็มีส่วนร่วมในการพัฒนาบ้านเขาเอง ก็จะดีกว่าการที่เราเป็นคนต่างถิ่น วันดีคืนดีเราไปสั่งเขาให้ทำนู้นทำนี่ แต่วันนี้เราไปฟังเขาว่าเขาอยากทำอะไร เขาเห็นว่าเขาควรทำอะไร เรามีองค์ความรู้ไปเพิ่มเติมจากเดิมที่เขาไม่รู้ไปให้เขา มันเกิดงาน งานที่ผมพูดถึงคือเรื่องของ ธนาคารต้นกล้าป่าชายเลน ที่โรงเรียนพระพิมลเสนี ที่ชุมชนบ้านคลองหัวจากทำอยู่ กลุ่มอาชีพกลุ่มนั้นเกิดจากสิ่งเล็ก ๆ…

Read more